เจ็บแล้วจำ สมุนไพรใบบัวบก ช่วยคุณได้ !?!

จั่วหัวข้้อมาอย่างนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องอกหักรักคุดหรอกนะครับ เพียงแต่อยากจะตะโกนบอกดังๆว่า ใบบัวบกที่เราคุ้นเคยๆกันนั้น ไม่ได้ช่วยเพียงเรื่องช้ำในเพียงอย่างเดียวนะครับ ยังสามารถช่วยเรื่องเกี่ยวกับความจำไม่แพ้ใบแปะก๊วยอีกด้วย ในใบบัวบกจะช่วยเรื่องความจำได้อย่างไรมาติดตามกันครับ

ก่อนอื่นมาทราบถึงสารสำคัญต่างๆที่อยู่ใน "บัวบก" (Gotu kola) กันครับ
ในบัวบก ประกอบด้วยสารสำคัญหลายชนิด ได้แก่ ไตรเตอพีนอยด์ (อะซิเอติโคซัยด์) บราโมซัยด์ บรามิโนซัยด์ มาดิแคสโซซัยด์ (ซึ่งเป็น ไกลโคซัยด์ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ) กรดมาดิแคสซิค ไธอะมิน (วิตามินบี 1) ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) ไพริดอกซิน (วิตามินบี 6) วิตามินเค แอสพาเรต กลูตาเมต ซีริน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสทีดิน แมกนีเซียม แคลเซียม โซเดียม

ทำไมใบบัวบก ถึงช่วยเรื่องความจำ !?!
จากการสืบค้นงานวิจัยเกี่ยวกับบัวบก ของภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เภสัชกรเชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรมการผลิต หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่าบัวบก มีฤทธิ์บำรุงสมองเช่นเดียวกับแปะก๊วย คือ เพิ่มความสามารถในการจำและการเรียนรู้ จนมีการจดสิทธิบัตรสารสกัดจากบัวบกในคุณสมบัติช่วยเพิ่มความสามารถในการจำ

กลไกการออกฤทธิ์ของใบบัวบก ด้านบำรุงสมองพบว่า บัวบกทำให้การหายใจการลำเรียงออกซิเจนในระดับเซลล์สมองดีขึ้น ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการเสื่อมของเซลล์สมอง คงสภาพปริมาณของสารสื่อประสาท และเสริมฤทธิ์การทำงานของสารสื่อประสาทและยังทำให้หลอดเลือดมีความแข็งแรงสามารถนำเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

ผลการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการใช้เป็นอาหารเพิ่มไอคิว ความฉลาด ความสามารถในการจำและการเรียนรู้ในเด็ก โดยเฉพาะเด็กพิเศษ เด็กสมาธิสั้น ส่วนคนทั่วไปบัวบกจะช่วยชะลออาการโรคสมองเสื่อมในวัยชราหรืออัลไซเมอร์ และช่วยคลายเครียด ทำให้มีสมาธิในการทำงาน ปัจจุบันในสหรัฐและอีกหลายประเทศ มีการนำบัวบกไปแปรรูปบรรจุเป็นแคปซูล จำหน่ายโดยชูจุดเด่นในด้านของสรรพคุณบำรุงสมองในใบบัวบกอีกด้วย

ผลการวิจัยบัวบกเมื่อเทียบกับแปะก๊วยผลที่ได้เหมือนกัน แต่เนื่องจากใบแปะก๊วยมีการทำวิจัยไปเป็นข้อมูลสนับสนุนการขายในตลาดโลกในเชิงพานิญย์มากกว่า จึงมีการส่งเสริมทำวิจัยใบแปะก๊วยมากกว่า น่าเสียดายที่สมุนไพรบัวบกยังมีสรรพคุณดีๆ อีกมากมายที่คนยังมองข้ามกันอยู่
Cr : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร
เภสัชกรเชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรมการผลิต หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ทำไมใบบัวบก ถึงช่วยเรื่องเจ็บช้ำ !?!
เนื่องจาก สารไตรเตอพีนอยด์ ในบัวบกมีสรรพคุณที่ทำหน้าที่
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเปรียบเสมือนร่างแหที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างหลักของเซลล์ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย และยังเป็นผนังที่หุ้มล้อมรอบหลอดเลือดอีกด้วย ใบบัวบกจึงสามารถลดความดันเลือดได้เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่เส้นเลือด
ใบบัวบกมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนผ่านเส้นเลือดฝอย รวมทั้งการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบวม เส้นประสาทเสื่อม เหน็บชา และแขนขาอ่อนแรง
ทำให้ผิวหนังเต่งตึงและมีความยืดหยุ่นขึ้น ตลอดจนช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็น และช่วยในขบวนการหายของแผล เนื่องจากใบบัวบก จะควบคุมไม่ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนบริเวณแผลมากจนเกินไป
    นิยมนำใบบัวบกไปใช้ในการรักษาแผลต่างๆ อาทิเช่น แผลผ่าตัด การปลูกถ่ายผิวหนัง แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลเรื้อรัง หรือแม้แต่แผลจากโรคเรื้อน ใบบัวบก ในการรักษาแผลและผิวหนัง
    พบว่าสารไกลโคไซด์ที่ได้จากใบบัวบก ยังส่งผลในการช่วยเร่งการสร้างสารคอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างของผิวหนึง จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้นและพบว่าสารไตรเตอพีนอยด์ (triterpenoids) มีผลเสริมความแข็งแรงของผิวหนัง เพิ่มปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระในบาดแผล และช่วยเพิ่มปริมาณเลือดไหลเวียนไปยังบริเวณบาดแผล
   
ใบบัวบก ในการรักษาโรคผิวหนัง
พบว่าสารอะซิเอติโคไซในใบบัวบก สามารถทำลายสารเคลือบผิวที่หุ้มแบคทีเรีย (ปกติภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำลายสารเคลือบผิวตัวนี้ได้)
ทำให้ภูมิคุ้มกันเข้าไปจัดการกับเชื้อแบคทีเรียได้โดยตรง มีผลรักษาโรคเรื้อนและวัณโรคที่ผิวหนัง
อาจใช้เป็นยาภายนอกรักษาแผลเปื่อย แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก พอกด้วยบัวบกแผลก็จะจะสนิท และเกิดแผลเป็นชนิดนูนน้อยลง
สารที่ออกฤทธิ์คือ กรดมาดิแคสซิค กรดอะเชียติก และสารอะเชียติโคซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยสมานแผล และเร่งการสร้างเนื้อเยื่อ สามารถระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย

ใบบัวบก ในการใช้ลดรอยตีนกา บำรุงผิวพรรณ
สารไกลโคไซด์ที่ได้จากใบบัวบก ทำหน้าที่ช่วยเร่งการสร้างสารคอลลาเจน  และอิลาสตินให้ทำงานได้ดีขึ้น
ใช้ใบบัวบกล้างให้สะอาด หั่นฝอยประมาณ 1/2 ถ้วย เติมน้ำต้มสุกนิดหน่อย นำไปปั่นให้เป็นน้ำข้นๆ กรองเอาแต่น้ำ
ใช้สำลีชุบทาทั่วใบหน้า หรือจะใช้สำลีแปะไว้ที่ผิวใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้เต่งตึงไร้ริ้วรอย
ซึ่งจะเห็นว่าปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ทางผิวหนัง-บำรุงผิวพรรณ นิยมนำใบบัวบกมาเป็นส่วนประกอบกันเป็นอย่างมาก

จากบทความด้านบนจะเห็นได้ว่าใบบัวบก นั้นมีประโยชน์มากมายสมกับเป็นพืชสมุนไพรของไทย ไม่ว่าช่วยในเรื่องการแพทย์อย่างการรักษาแผลหรือโรคผิวหนัง โดยเฉพาะการวิจัยใหม่ๆที่ค้นพบว่าสามารถช่วยลดรอยตีนกาบนใบหน้าซึ่งมีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังช่วยเรื่องความจำได้อีกด้วย

กันต์โตะ ชาสมุนไพร เชียงใหม่